ข้อดีของ mirrorless ที่ได้เปรียบ DSLR

ข้อดีของ mirrorless ที่ได้เปรียบ DSLR

เคยอ่านเจอความคิดเห็นของเพื่อนของเพื่อนบางท่าน ได้ให้ความคิดเห็นว่า กล้อง mirrorless มันก็มีดีกว่า DSLR ตรงที่แค่เบากว่าเท่านั้นหละ เมื่อวันก่อน พวกเราก็ได้คุยกันเรื่องความได้เปรียบของ system DSLR ที่มีเหนือกว่า system ของกล้อง Mirrorless กันไปแล้วนะครับ มีข้อได้เปรียบ ยกมาได้ราวๆสิบกว่าข้อ รวมหมดทั้งด้านอารมณ์ และเหตุผล วันนี้ก็ลองมานั่งคิดมั่ง ว่า system กล้อง mirrorless มันดีกว่ากล้อง DSLR ตรงที่แค่เบากว่าจริงๆหรือ ลองไล่เรียงออกมาดูกันครับ
ก็มาดูโครงสร้างกันก่อน

กล้อง mirrorless คือกล้องที่วิวัฒนาการต่อมาจาก DSLR โดยเมื่อเทคโนโลยี เซ็นเซอร์รับภาพ และประสิทธิภาพ processor มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเรื่อยๆ
ทำให้นักออกแบบกล้อง สามารถปรับเปลี่ยน design กล้อง โดย ถอดห้องกระจก กระจกสะท้อนภาพ ปริซึ่ม focus screen เซ็นเซอร์จับโฟกัส โยนทิ้งไป แล้วย้ายทุกอย่างมาย่อรวมอยู่บนผิวเซ็นเซอร์รับภาพให้หมด

1. ดังนั้น ที่แน่ๆเมื่อไม่มี mirror box ไม่มี prism โดนถอดชิ้นส่วนออกไปหลายๆส่วนแล้ว ดังนั้น ขนาดตัวบอดี้ของกล้องมันก็ย่อมจะเล็กลงและเบากว่ากล้อง DSLR แน่นอน แม้ว่าจะใช้เซ็นเซอร์ขนาดเดียวกัน (ส่วนเรื่องเลนส์ มันอาจเล็กลงไม่ได้ตามกฏฟิสิกส์ ที่ว่าถ้าเราต้องการวงภาพ image circle ขนาดเท่านี้ ประสิทธิภาพเท่านี้ เราก็ต้องใช้ชิ้นแก้วขนาดเท่านี้)


2. ขจัดปัญหาเรื่อง front - back focus กล้อง DSLR ใช้ตัวเซ็นเซอร์จับโฟกัส แยกคนละตำแหน่งกับ เซ็นเซอร์รับภาพ แสงเข้ามาสะท้อนกระจก ผ่าน prism ผ่าน focus screen ผ่านชิ้นส่วนมากมาย และแยกทางไปลงที่ AF sensor ดังนั้น เมื่อมีอะไรคลาดเคลื่อนสักชิ้น ทั้งระบบมันก็คลาดเคลื่อนไปหมด ทำให้เกิดปัญหา ภาพในช่องมองภาพโฟกัสตรง แต่ภาพที่ถ่ายมา โฟกัสไม่ตรง หรือ front / back focus นี่เอง แต่เนื่องจาก Mirrorless ใช้เซ็นเซอร์โฟกัส ที่ฝังบนผิวเซ็นเซอร์รับภาพ ระนาบโฟกัส จึงเป็นระนาบเดียวกัน โฟกัสชัดก็คือชัด ตัดปัญหา front back focus ออกไปได้หมดจด




3. DSLR ใช้เซ็นเซอร์จับ AF ตัวเล็กๆแยกออกมาจากเซ็นเซอร์รับภาพ จึงค่อนข้างมีพื้นที่ และจำนวนจุดโฟกัส ที่จำกัด ต่างกับ mirrorless ที่ใช้พื้นที่ผิวเซ็นเซอร์ทั้งหมด มาเป็นจุดโฟกัส ทำให้สามารถมีจุดโฟกัสที่กว้าง และมากมายหลายจุดกว่า DSLR



4. ใน DSLR optical viewfinder หรือช่องมองภาพ คือตัวช่วยเล็ง ช่วยจัด composition วัดแสง เลือกจุดโฟกัสเฉยๆ กดแล้วได้ภาพจะออกมายังไง ค่อยไปว่ากันอีกที
ส่วน mirrorless ภาพที่แสดงใน viewfinder คือภาพที่เซ็นเซอร์ได้รับมาแล้ว process ไปแล้ว ดังนั้น มันจะแสดงค่าความสว่างของภาพจริง , depth of field, picture effect ต่างๆ เช่น picture style , white balance ปัจจุบัน ดังนั้น สิ่งที่เราเห็นคือสิ่งที่ได้มาแล้ว ไม่ต้องเดา ไม่ต้องลุ้น
นอกจากนั้น ยังแสดงข้อมูลอย่างอื่น เช่น ระดับน้ำ histogram ได้ด้วย

5. การได้ภาพจริงๆหรือ live view มาแสดงผลของ Mirrorless ทำให้เราสามารถ เลือกจุดโฟกัส หรือ drag จุดโฟกัสได้ จาก touch screen เลย

6. Live view ช่วยให้ข้อมูลภาพในปัจจุบัน ไหลเข้าสู่เซ็นเซอร์ต่อเนื่อง ทำให้ CPU นำข้อมูลภาพนั้นไปต่อยอดได้ เช่นระบบ AI คิดวิเคราะห์ scene detection รวมทั้งระบบ face detection , eye detection , predictive focus ต่างๆ

7. live view ทำให้สามารถนำข้อมูลที่ได้ไปต่อยอดเพิ่มได้อีก เช่นการถ่าย live composite, live time, light painting ต่างๆ รวมไปถึงการถ่าย panorama ที่รับข้อมูลมาประมวลผล และแสดงผลได้เลย

8. กระจกสะท้อนภาพ คือตัวถ่วงการพัฒนาในหลายๆด้าน เช่นการถ่าย vdo DSLR ก็ต้องยกกระจกสะท้อนภาพเก็บไว้ ใช้เซ็นเซอร์รับภาพแบบ live view แล้วทำตัวให้กลายเป็นกล้อง mirrorless


9. การจะถ่ายภาพที่อัตราต่อเนื่องที่ frame rate สูงๆ กระจกสะท้อนภาพก็เป็นข้อจำกัด เพราะต้องเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง และบางทีก็ต้องออกแบบกันอย่างยากเย็น เพื่อให้เคลื่อนไหวได้รวดเร็ว และไม่เกิดการสั่นสะเทือน พอกระจกสะท้อนภาพถูกตัดออกไป ก็เป็นการปลดปล่อยข้อจำกัดในเรื่องเหล่านี้ ทำให้สามารถถ่ายภาพที่ frame rate สูงๆได้แบบง่ายๆ

10. และการไม่มีกระจกสะท้อนภาพ ก็นำมาซึ่งความสามารถด้าน Silent shooting โดยใช้ม่านชัตเตอร์ electronic ทำให้สามารถถ่ายแบบไร้เสียงได้ ซึ่ง DSLR บางรุ่นก็สามารถทำได้โดยการพับกระจกเก็บไว้แล้วทำงานแบบ mirrorless
11. การไม่มีห้องกระจก ก็สามารถสร้าง system ที่มีระยะ register สั้นกว่า ทำให้แสงเดินทางสั้นลง เสียแสงน้อยลง และสามารถทำเลนส์ที่ความไวแสงสูงๆออกมาได้ง่ายกว่า system lens ของ DSLR



12. การที่ mirrorless มีระยะ register สั้นกว่า ก็ทำให้กล้อง mirrorless มีพื้นที่เหลือ สามารถเอาเลนส์ของกล้องค่ายอื่นๆ มาใช้โดยใส่ adapter ได้ การที่กล้อง mirrorless เอาเลนส์เหล่านั้นมาใช้ได้ ก็ทำให้เราได้พบกับอะไรแปลกๆใหม่ๆ ได้ลองเอาเลนส์แปลกใหม่มาใช้ หรือได้ภาพแนวที่ไม่เคยเห็นมาก่อน




13. นอกจากจะมี adapter แปลงเลนส์ธรรมดาแล้ว ก็ยังมี adapter ที่มีประโยชน์อื่นๆ เช่น tilt-shift adapter ที่ให้ภาพแบบ tilt-shift ได้ adapter ที่เป็น Focal Reducer ตัวรวมแสง เปลี่ยนทางยาวโฟกัส หรือ AF adapter Adapter ที่แปลงเลนส์ manual focus ให้กลายเป็นเลนส์ Auto Focus ที่ในสมัยสักห้าก่อน ยังไม่เคยมีใครคาดคิด ว่ามันจะเกิดสิ่งนี้ขึ้นมาได้



14. Mirrorless เป็นกล้องที่ดูไม่ค่อยเป็นทางการ ขนาดตัวเล็ก ทำให้ดูไม่คุกคาม เข้าหาเป้าหมายได้ง่ายกว่า ไม่ดูเป็นจริงเป็นจังเท่า DSLR


นั่งคิดคร่าวๆ ร่ายๆออกมาได้ประมาณเท่านี้หละครับ แต่ละระบบมันก็มีข้อดีของมันอยู่ ตามที่ได้คุยกันมา ถ้ามองในแง่เทคโนโลยีแล้ว ผมว่าเทคโนโลยี DSLR มันก็พัฒนามาจนถึงเกือบสุดทางแล้วครับ
ถ้าจะให้พัฒนาต่อไปได้อีก กล้อง DSLR ก็ต้องทำการพับกระจกเก็บไว้ ทำตัวเปรียบเสมือนกล้อง Mirrorless ใช้ live view ในการถ่าย VDO หรือถ่ายต่อเนื่องความเร็วสูง ก็เป็นเครื่องพิสูจน์แล้ว ว่า ในยุคปัจจุบันนี้ กระจกสะท้อนภาพ มันกลายเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นเสียแล้ว จะมีไว้ยึดเหนี่ยวทางอารมณ์ก็ได้ หรือจะถอดกระจกถอดปริซึ่มทิ้งไปทันที หันมาใช้เซ็นเซอร์รับภาพล้วนๆอย่างเดียว ทุกค่ายก็มีศักยภาพในการทำได้แล้ว

ก็รอดูทิศทางกันต่อไปครับ ว่าค่ายใหญ่ๆจะเข็น mirrorless ตัวเต็มๆโหดๆออกมาเมื่อไหร่ ผมว่าไม่เกิน 2 -3 ปีนี้ ก็คงได้เห็นกันพร้อมหน้าพร้อมตาครบทุกค่ายหละครับ

ที่มา: ข้อดีของ mirrorless ที่ได้เปรียบ DSLR
ข้อดีของ mirrorless ที่ได้เปรียบ DSLR ข้อดีของ mirrorless ที่ได้เปรียบ DSLR Reviewed by @monrudee on May 17, 2018 Rating: 5

No comments:

Powered by Blogger.